เช้าวันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม 2566 คณะทำงานบริการวิชาการและทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม สำนักวิชาศิลปศาสตร์ ร่วมกับ สโมสรนักศึกษาสำนักวิชาศิลปศาสตร์ ได้จัดซุ้มอาหารข้าวต้มไก่ไข่ลวกและข้าวไข่เจียวเพื่อถวายเป็นภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ และแจกจ่ายเป็นทานแก่ผู้ร่วมงานในประเพณีให้ทานไฟ ซึ่งจัดโดยศูนย์ส่งเสริมวัฒนธรรมและกีฬา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ณ บริเวณลานธรรมข้างศูนย์อาหารช่อประดู่ ภายในมหาวิทยาลัย
ประเพณีให้ทานไฟเป็นประเพณีที่วัดต่าง ๆ จะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจะมีอากาศหนาวกว่าช่วงอื่น ๆ ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันมาทำอาหารร้อน ๆ เพื่อถวายพระในบริเวณวัด เช่น ข้าวต้ม หมูย่าง ทอดมัน ขนมครก ขนมโค ขนมเบื้อง ขนมถังแตก ซาละเปา ฯลฯ ตามความถนัดและความสร้างสรรค์ หากผู้ร่วมงานไม่สะดวกทำอาหารเอง ก็ซื้อหาจากคนที่ทำอยู่ก็ได้ ซึ่งเงินที่ได้มาก็จะนำไปถวายวัดทั้งหมด ทั้งนี้การให้ทานไฟจะก่อกองไฟขึ้นภายในบริเวณวัด แรกเริ่มก็เพื่อให้ความอบอุ่นแก่พระสงฆ์มานั่งล้อมรอบกองไฟระหว่างชาวบ้านนำอาหารมาถวาย และเป็นแสงสว่างให้ผู้ร่วมงาน บางวัดอาจมีพระมาสวดมนต์รอบกองไฟ หรือไม่ก็ให้พระนำชาวบ้านเดินประทักษิณรอบกองไฟนั้น
ประเพณีให้ทานไฟที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่สอง โดยมีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก สำหรับสำนักวิชาศิลปศาสตร์ มีตัวแทนนักศึกษาจากสโมสรนักศึกษาสำนักวิชาศิลปศาสตร์ ร่วมกิจกรรม พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.ศราวุธ ปาลิโภชน์ รักษาการแทนรองอธิการบดีและรักษาการแทนคณบดีสำนักวิชาศิลปศาสตร์ และคณาจารย์ในสำนักวิชาร่วมแจกจ่ายอาหารแก่ผู้ร่วมงาน
กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาศักยาภาพบัณฑิตให้เก่ง ดี และมีความสุข ผ่านกิจกรรมทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมโดยการสืบสานประเพณีให้ทานไฟนั่นเอง
